**... ♥♥♥ ความตายที่โยงใยมารดา ♥♥♥ ..**
เล่ามาจากอะนัส บิน มาลิก
มีชายคนหนึ่งในสมัยของท่านศ าสดามุฮัมมัด นามว่า อัลกอมะฮฺ เป็นคนที่เคร่งครัดในศาสนาม าก อยู่มาเขาล้มป่วยลง และอาการเขาค่อยๆ หนักขึ้น ไม่มีทีท่าว่าจะทุเลาเลย เขาประสบความทรมานจากอาการป ่วยมากที่สุด และเขาก็คงสภาพเช่นนั้นติดต ่อมาเป็นเวลานาน โดยสภาพปกติทั่วไปแล้ว ถ้าเป็นคนอื่นก็คงจะตายไปแล ้ว แต่อัลกอมะฮฺกลับทุรนทุรายเ ป็นที่น่าเวทนา บรรดาญาติมิตรมานั่งเฝ้าอาก ารของเขาด้วยความเป็นห่วงแล ะสงสาร เพราะอัลกอมะฮฺเป็นคนทำดีมา โดยตลอด บั้นปลายชีวิตของเขาไม่น่าจ ะประสบภาวะเช่นนี้ และทุกคนเต็มไปด้วยความสงสั ย จึงเดินทางไปพบศาสดาและรายง านให้ท่านทราบ
ท่านศาสดาถามว่า " อัลกอมะฮฺผู้นี้มีพ่อ มีแม่ ไหม ? "
ได้รับคำตอบจากคนกลุ่มนี้ว่ า เขามีแม่ที่แก่มากและยังมีช ีวิตอยู่ ท่านศาสดาจึงให้คนไปบอกแก่น างว่า นางจะมาพบด้วยตัวเองไหวมาก ถ้าไม่ไหวท่านศาสดาจะไปพบเอ ง เมื่อแม่ของอัลกอมะฮฺได้ทรา บเช่นนั้น นางก็ตัดสินใจไปพบท่านศาสดา แม้นางจะชรามาก เรี่ยวแรงเหลือน้อย และสุขภาพไม่ดี นางกะเย้อกระแย่ง ถือไม้เท้าพยุงกายไปพบกับท่ านด้วยความดีใจและภูมิใจเป็ นล้นพ้น นางไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยเล ยที่ต้องเดินทางออกจากบ้านม าพบท่านศาสดา ครั้นเมื่อมาถึงแล้ว
ท่านศาสดาก็ถามว่า "อัลกอมะฮฺลูกชายของยายนั้น เป็นคนอย่างไร ? "
นางตอบว่า "เขาเป็นผู้ทำความดีไว้มาก เช่น ทำละหมาด ทำทาน ถือศีลอด และความดีอื่นๆ อีกนับไม่ถ้วน"
ท่านศาสดา ถามนางว่า "แล้วยายมีความรู้สึกอย่างไ รกับลูกชายบ้าง ยังรักเขาดีอยู่หรือ และเขาเคยมาเอาใจใส่ดูแล ปรนนิบัติบ้างไหม"
นางตอบว่า "ดิฉันโกรธเขามาก เพราะเขาไม่เคยสนใจดิฉัน สาเหตุเพราะเขากลัวเมีย เมียว่าอะไรเขาเชื่อฟังหมด แต่ดิฉันบอกอะไรเขาไม่เคยฟั ง เขาจงรักภักดีต่อภริยาของเข ามาก จนไม่สนใจดิฉันเลย"
ท่านศาสดา จึงกล่าวแก่นางว่า
" ขณะนี้อัลกอมะฮฺกำลังป่วยหน ัก ซึ่งเขาน่าจะตายไปแล้ว แต่กลับทรมาน ทุรนทุราย เป็นที่น่าสงสาร ข้อสำคัญเขาไม่สามารถกล่าวป ระโยคปฏิญาณได้ "
หลังจากนั้นท่านศาสดา จึงลองใจแม่ของอัลกอมะฮฺ โดยสั่งแก่บิลาลว่า
"บิลาลเอ๋ย... ท่านจงไปรวบรวมไม้ฟืนแล้วจุ ดไฟไว้ หลังจากนั้นจงนำตัวอัลกอมะฮ ฺมาเผาเสียให้ตาย"
แม่ของอัลกอมะฮฺเมื่อได้ยิน คำสั่งของท่านศาสดา เช่นนั้น ก็ตกใจ และลืมความโกรธที่นางมีอยู่ กับบุตรชาย นางสงสาร และให้อภัยแก่เขา
พร้อมทั้งวิงวอนว่า "โอ้ท่านศาสดา โปรดอย่าทำอย่างนั้นกับลูกช ายของดิฉันเลย ดิฉันให้อภัยแก่เขาแล้ว ดิฉันรักและสงสารเขามาก ดิฉันขอสาบานต่อพระเจ้าว่า ดิฉันพูดจริงจากหัวใจของดิฉ ัน"
เมื่อท่านศาสดา ได้ยินเช่นนั้น ท่านจึงยิ้มด้วยความพอใจและ สั่งบิลาลว่า
"บิลาลเอ๋ย ท่านจงไปที่บ้านของอัลกอมะฮ ฺ จงดูสิว่า อาการของเขาเป็นอย่างไร? "
จากนั้นบิลาลก็ไปที่บ้านของ อัลกอมะฮฺ และขึ้นไปดูอาการของเขา บิลาลได้เห็นด้วยตาตนเองว่า อาการทุรนทุราย และทรมานของอัลกอมะฮฺนั้น ได้อันตรธานไปจากเขาแล้วโดย สิ้นเชิง และเขาสามารถกล่าวประโยครปฏ ิญาณได้อย่างคล่องแคล่ว ต่อมาเขาก็เสียชีวิตอย่างสง บ บิลาลกล่าวแก่บรรดาผู้มาเยี ่ยมว่า สาเหตุที่อัลกอมะฮฺกล่าวประ โยคปฏิญาณไม่ได้ และต้องทุรนทุราย อย่างทรมาน ก็เพราะเขาเชื่อเมียมากกว่า แม่ เป็นเหตุให้แม่โกรธ และขณะนี้แม่ของเขาได้ยกโทษ ให้แล้ว เขาจึงสามารถกล่าวประโยคปฏิ ญาณได้ และตายไปอย่างสงบ
หลังจากนั้น ท่านศาสดาไปที่บ้านของอัลกอ มะฮฺ และจัดการกับศพของเขาด้วยตน เอง ตั้งแต่อาบน้ำ ห่อ นำละหมาด และฝังจนเสร็จเรียบร้อย จากนั้นท่านก็กล่าวให้โอวาท ว่า
"ใครเห็นเมียสำคัญกว่าแม่ อัลลอฮฺจะทรงสาปแช่งเขา และความดีของเขาทั้งฟัรดูแล ะสุนัติ อัลลอฮฺจะไม่รับ"
ท่านศาสดามุฮัมมัดได้รายงาน โองการหนึ่งของพระองค์อัลลอ ฮ์ ความว่า
"เจ้าจงประกาศเถิดแก่ผู้ทำด ีกับพ่อแม่ว่า ท่านจงปฏิบัติในสิ่งที่ท่าน พึงประสงค์เถิด เพราะแท้จริงอัลลอฮฺทรงให้อ ภัยแก่ท่าน"
อัลหะดิษ บันทึกโดยมุสลิมและอื่นๆ ความว่า
" ลูกไม่มีโอกาสที่จะตอบแทนบุ ญคุณของพ่อได้โดยวิธีใดเลย นอกจากเมื่อเขาเห็นพ่อเขาตก เป็นทาส เขาก็รีบไปปลดปล่อยเสีย "
อัลหะดิษ จากอบีฮุรอยเราะฮฺ ความว่า
" ไม่ว่าบ่าวคนใดที่จะทำละหมา ดฟัรดูและขอพรให้แก่พ่อแม่ข องเขาให้พระองค์ทรงอภัย
นอกจากอัลลอฮฺจะทรงสนองตอบค ำขอของเขาอย่างแน่นอน " !!!!!!!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น