หน้าเว็บ

ให้ "น้ำตา" ไหลซะบ้าง!!

อัสลามูอาลัยกุม......พี่น้องมุสลิมที่รักทุกท่านข้อความมันอาจจะยาวไปสักนิด แต่ มันคงไม่เสียเวลามากนักถ้าพี่น้องที่รักจะอ่านเพื่อตัวของท่านเอง ^^
ให้น้ำตา.....ไหลซะบ้าง!!
         น้ำตา..กลั้นไว้ทำไม..ปล่อยซิ..ปล่อยให้ไหลมาอาบแก้มเถอะ ในเมื่อน้ำสามารถชำระล้าง..สิ่งมัวหมองให้สดใสได้นี่หน่าน้ำตาซิ..วิเศษ..จะช่วยให้คุณมองเห็นอะไรต่อมิอะไร..ฯลฯ ได้ดีขึ้น บางเรื่องที่มัวหมองและหมองหม่นในสายตาคุณมานานแล้ว..อาจจะสดใสในวันที่คุณมีน้ำตาก็ได้ บางคน..หรือหลายคนและรวมถึงคุณด้วย..ที่ไม่กล้าจะเสียน้ำตา..กลัวกับการที่ต้องร้องไห้...คุณลองสังเกตและพยายามสัมผัสถึงความรู้สึกหลังจากร้องไห้ไปแล้วซิ..ว่าคุณรู้สึกอย่างไร...รู้สึกไหมว่า..โล่งอกและแอบถอนหายใจหนักๆ..แน่ล่ะในเมื่อคุณได้ระบายออกไปแล้วนี่..โดยที่คุณไม่จำเป็นจะต้องเดินทางหรือโทรศัพท์ไปหาเพื่อนรักเพื่อระบายทุกข์ของคุณให้เขาฟัง..เห็นไหม?แสดงว่าน้ำตาคือเพื่อนคู่ทุกข์ของคุณอย่างแท้จริง..ทีนี้คุณเริ่มจะเห็นความสำคัญของน้ำตาบ้างหรือยังล่ะ..ฉะนั้นคุณก็อย่าสกัดกั้นเจ้าน้ำตาซิ..ในเวลาที่คุณมีความทุกข์มนเมื่อน้ำตาน่ะ..มันพร้อมเสมอที่จะร้องไห้ไปกับคุณ..เลิกอายกับน้ำตาได้แล้ว....รู้สึกไหมว่า...คุณเริ่มจะเห็นถึงต้นเหตุ..ปัญหา..และวิธีแก้ไขบ้างแล้วใช่ไหม?..บางทีคุณเองนั่นแหละเป็นต้นเหตุของปัญหา..ก็เริ่มยอมรับแล้วล่ะซิ..ก่อนร้องคุณอาจจะโยนความผิดให้คนโน้น..คนนี้..แต่หลังร้องคุณอาจจะรำพึงกับตัวเองว่า เราไม่ฉลาดเอง..เราผิดเอง..รู้สึกไหมว่า...ใบหน้าและจิตใจของคุณเริ่มจะอ่อนโยนหลังจากที่มันแข็งกระด้างและทระนงมานานแล้ว..เมื่อจิตใจอ่อนโยนแต่ไม่ได้หมายความว่าคุณจะรู้สึก
อ่อนแอ..ความแข็งกระด้างก็เริ่มจางหายไปพร้อมๆกับความเข้มแข็งเข้ามาแทนที่ ทีนี้คุณก็จะเป็นอย่างที่เขาบอกกันว่า”จงอ่อนโยนแต่อย่าอ่อนแอ..จงเข้มแข็งแต่ อย่าแข็งกระด้าง”รู้สึกไหมว่า...หลังจากร้องไห้แล้วคุณจะสำนึกในความเป็นบ่าวมากขึ้นหลังจากร้องไห้จนน้ำมูกแห้งแล้งไปแล้ว..คุณลองทำตัวเองให้ถ่อมตน โดยทิ้งความผยองและความทระนงออกไป...แล้วคุณก็ทำตัวเองให้เป็นคนขี้อ้อน..อ้อนต่ออัลลอฮผู้เป็นพระเจ้าของเรา ลองน่ะ..!!ยาอัลลอฮ..บ่าวร้องไห้เพื่อพระองค์น่ะ..น้ำตาบ่าวมีค่า..เกินกว่าที่จะร้องไห้เพื่อใครทั้งนั้น..นอกจากพระองค์เพียงผู้เดียว”ยาอัลลอฮ..วันนี้บ่าวเหนื่อยจังเลย..บ่าวสับสน..บ่าวว้าวุ่น..บ่าวอ่อนแอเกินไปที่จะเข้าใจโลกอันกว้างใหญ่..ใบนี้ได้..ขอพระองค์ทรงช่วยบ่าวผู้นี้ด้วยเถิด”ยาอัลลอฮ..บ่าวอ่อนแออีกแล้ว..กับเรื่องที่เกิดขึ้นแค่นี้..บ่าวไม่เข้าใจว่าทำไม?...ทำไม?..ขอพระองค์ทรงให้ทางออกและวิธีแก้ในสิ่งที่เกิดขึ้นขณะนี้ด้วยเถิด..โอ้ผู้ทรงปรีชาญาณ”ดังกล่าวเป็นเพียงตัวอย่าง..จากบรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย ซึ่งจิตใจของพวกเขาผูกพันอยู่กับอัลลอฮทุกลมหายใจ..แต่รู้ไหมยังมีบางคนบอกว่า อายจังจะพูด..พูดไม่ออกรู้สึกเขิน..ไม่กล้าพูดอย่างนั้น..เอ๊ะ!แปลกจัง..ทำไมต้องอายด้วยล่ะ ทำไมไม่กล้าพูดอย่างนั้น คุณให้คำตอบกับตัวเองได้ไหม?คำตอบของคุณไม่มีเหตุผลเอาซะเลย..และไม่ว่าคุณจะมีกี่คำตอบคุณก็ตอบผิดอยู่นั่นแหละ เอาล่ะ คุณไม่ต้องให้เหตุผล..เพราะมันเหมือนจะเป็นข้ออ้างมากกว่า..ฉะนั้นลองพูดบ้างน่ะ..หากยังรู้สึกอาย..คุณก็ลองพูดในใจก่อนก็ได้นี่อีกอย่างหนึ่ง..คุณสังเกตไหมว่า..บางคนหรือหลายคนและรวมถึงคุณด้วยชอบที่จะหยิกแก้มจ้ำม่ำขาวอมชมพูของเด็กน้อยที่น่ารัก(จนน่าหยิก) เมื่อโดนหยิกเด็กน้อยจะร้องจ้า เห็นฟันสองซี่ที่เพิ่งงอก..เด็กน้อยร้อง แต่คุณกลับ..ยิ้มด้วยความเอ็นดู..แล้วคุณก็โอ๋ปลอบ..ถามว่าทำไมคุณรู้สึกเอ็นดูกับเสียงร้องนั้นคุณตอบว่า..น่ารัก..ยิ่งร้องยิ่งน่ารัก..เห็นไหมบางครั้งการร้องไห้ทำให้เกิดความเอ็นดูแสดงว่า..”หากเราร้องไห้พลาง..สะอื้นพลางและพร่ำร้อง..ฟ้องต่ออัลลอฮพลาง เราก็เหมือนเด็กที่น่ารัก น่าเอ็นดู...น่าสงสารในสายตาของอัลลอฮนั่นแหละ”ก็แค่อัลลอฮหยอก(เมื่อถูกทดสอบหรือเมื่อเจออุปสรรค)บ่าวของพระองค์เล่น..หากเราไม่ร้องไห้แล้วเราจะเป็นบ่าวที่น่าเอ็นดูในสายตาของพระองค์ได้อย่างไร...??เด็กอาจเดินสะดุดเนิน...หกล้ม...แล้วร้องไห้แต่เราอาจจะสะดุดอุปสรรค อาจจะยังไม่หกล้ม..แต่มันก็เจ็บปวด..ฉะนั้น..หากคุณไม่ร้องไห้..ไม่ร้องขอต่ออัลลอฮ แล้วคุณจะเป็นบ่างที่น่าสงสารของอัลลอฮได้อย่างไร เมื่อคุณบังเอิญเห็นใครสักคนที่กำลังร้องไห้….แล้วแอบเช็ดน้ำตา...คุณจะเกิดความรู้สึกสงสาร...อยากจะช่วยในสิ่งที่เขากำลังเดือดร้อน....เห็นไหมขนาดเราซึ่งมีน้อยนิดในความเมตตา ผู้ทรงล่นเหลือด้วยความปรานี...แน่นอน พระองค์จะทรงโปรดปรานสำหรับบ่าว...ที่แอบร้องไห้เพื่อพระองค์

ปล.อิสลามงดงามเสมอ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น