หน้าเว็บ

เธอเหนื่อยไหม


เธอ….จะรู้สึกเช่นไร หากทุกๆวัน สามีกล่าวแก่เธอว่า

“เธอเหนื่อยไหม ??”

ส่วนมาก

กับข้าวหลายมือ หน้าที่ ภรรยา

เสื้อผ้าหลายตัว หน้าที่ ภรรยา

ถ้วยจาน หลายใบ หน้าที่ ภรรยา

ถุงเท้าหลายคู่ หน้าที่ ภรรยา

และก็เด็กน้อย หลายคน ใครอุ้มหล่ะ หากไม่ใช่ ภรรยา

ถามเค้าสักคำไหม…ว่าเธอเหนื่อยหรือเปล่า??

สำหรับ ภรรยาที่ได้ยินจากสามีทุกวัน ก็จงชูโกรต่ออัลลอฮให้มากๆ พระองค์รักท่านเหลือเกิน

สำหรับ ภรรยาที่ยังไม่เคยได้ยินมาก่อน จากวันนี้ไป อาจเริ่มเป็นฝ่ายถามสามีก่อนก็ได้ ว่าวันนี้ ทำงานเหนื่อยไหม และภายหลังจากนั้น ผมเชื่อว่า สามีท่านจะรักท่านและถามท่าน ว่าเหนือยไหม ทุกวัน อินชาอัลลอฮ

สำหรับ หนุ่มโสด สาวโสดหรือเป็นพ่อและแม่ม้ายอยู่(อิอิ)
ขอดุอาร์และลุ้นไปแล้วกันว่า สามีหรือภรรยาท่านจะพูดกับท่านไหม

ท่านอาจจะคิดว่า เล็กน้อยนะ เฉยๆอ่ะ ถามมาก็เฉยๆไม่รู้สึกอะไร

แต่นั่นคือความรู้สึกของท่าน แต่ท่านรู้ไหม!!สำหรับบางคน บางคู่ชีวิต

เพียงคำพูดเล็กน้อย มันคือส่วนต่อเติมให้ความรักและความผูกพันธ์มันเต็มมากขึ้นไปนะคับ….อินชาอัลลอฮ

เรียบเรียงโดย ชะบ๊าบ ก๊อลบุนสะลีม

ความสำเร็จ

'' ผู้ได้รับความทุกข์ทรมานมากที่สุดจากบรรดามนุษย์ทั้งหลาย คือ บรรดานบีและคนที่ดีหลังจากพวกเขา(ซอฮาบะห์) 
และบรรดาคนที่ดีหลังจากพวกเขา (บรรดาตาบิอีน) และบททดสอบนั้นจะขึ้นอยู่กับศาสนาของเขา  
ถ้าศาสนาของเขามั่นคง เขาก็จะได้รับบททดสอบที่หนักและยาก และขณะเดียวกันถ้าศาสนาของเขาอ่อนแอ เขาก็จะได้รับบททดสอบที่เบา


..แท้จริง บุคคลหนึ่งจะได้รับบททดสอบที่ยากลำบาก จนกระทั่งเขาเดินท่ามกลางผู้คนโดยปราศจากบาป''


[บันทึกโดย อะหมัดและติรมีซีย์]

พี่สาวค่ะ!!



มีเด็กคนหนึ่ง ได้ถามพี่สาวเธอว่า
.... พี่สาวค่ะ ทำไมต้องสวมหมวกกั้นน๊อค่ะ...?"

พี่สาวตอบว่า... " มันเป็นกฏของการขับขี่รถน่ะจ้าน้อง,หากไม่สวม
โดนจราจรจับ ก็ต้องเสียค่าปรับจ้า .. เเละอิกอย่าง ...
มันทำให้เราปลอดภัยด้วจ้า (ป้องกันหัวกระเเทกได้ดีเลยจ้า)
จากอุบัตติเหตุ , หัวเราก็ปลอดภัยจ้า !"
พี่สาวตอบด้วความมั่นใจ .

น้องก็ถามอิก....... "เเต่พี่สาว,ทำไมพี่สาว ไม่เห็นกลัว เวลาไม่ใส่ฮีญาบละค่ะ...
หัวพี่สาวเป็นเอารัต...! นี่มันเป็นบทบัญญัติ ที่อัลลอฮสั่ง
คำสั่งของอัลลอฮให้ผู้หญิงสวมฮีญาบนี่ค่ะ ...!
เเละอิกอย่างน้องไม่เห็นพี่สาวระวังหัวพี่สาวจาก อาคีเราะเลยนี่ค่ะ ไม่กลัวหรือค่ะ???
หัวพี่สาวถูกไฟเผ่า เพราะไม่สวมฮีาบน่ะค่ะ !!!
ไม่ใช่เเค่สวมผ้าคลุมบนหัวน่ะค่ะ...
เเต่ ,เทุกส่วนที่เป็นเอารัตเราก็ต้องปกปิดน่ะค่ะ ยกเว้น ฝ่ามือ กับใบหน้าเท่านั้น"

พี่สาว หน้าเเตก ไม่รู้จะพูดอย่างไรต่อไป ได้เเต่อมยิ้ม เเบบเเห้งๆ อ่ำอึ่ง เเบบอายๆ
เเละได้คิดในสิ่งที่น้องสาวตนเองพูด.

ทุกของตนเคยทำอะไร


เคยใช้ตา ดูสิ่งหะรอมไร้สาระต่างๆนานา ละครเอย ภาพยนตร์เอย ดนตรีเอย ฯลฯ หากวันนึงไร้ซึ่งดวงตาคู่นี้ ฉันจะอ่านกุรอ่านได้อย่างไร ? ..... โอ้อัลลอฮ์โปรดดูแลตาของฉันให้ใช้มันไปในหนทางของพระองค์ด้วยเถิด

เคยใช้หู ฟังสิ่งหะรอมไร้สาระต่างๆนานา เพลงเอย เสียงนินทาเอย ฯลฯ หากวันนึงไร้ซึ่งหูคู่นี้ ฉันจะฟังกุรอ่านได้อย่างไร ? .....โอ้อัลลอฮ์โปรดดูแลหูของฉันให้ใช้มันไปในหนทางของพระองค์ด้วยเถิด

เคยใช้ปาก เอ่ยสิ่งหะรอมไร้สาระนานา เพลงเอย ด่าทอเอย โกหกเอย ฯลฯ หากวันนึงไร้ซึ่งเสียงวาจา ฉันจะอ่านกุรอ่านได้อย่างไร ? .....โอ้อัลลอฮ์โปรดดูแลปากของฉันให้ใช้มันไปในหนทางของพระองค์ด้วยเถิด

เคยใช้จมูก สูดอากาศของพระองค์หายใจ แล้วทำสิ่งหะรอมต่างๆนานา 

" หากวันนึงไร้ซึ่งลมหายใจ ฉันจะเตาบัต แก้ไขตัวเองได้อย่างไร "

โอ้อัลลอฮ์โปรดให้ลมหายใจของฉัน ได้ใช้มันไปในหนทางของพระองค์ด้วยเถิด หากไร้ซึ่งการนำทางของพระองค์แล้ว บ่าวต้องหลงผิดเป็นแน่ ขอพระองค์ทรงนำทางข้าพระองค์ให้อยู่ในแนวทางที่เที่ยงตรงด้วยเถิด อามีนยาร็อบบัลอาละมีน

●▬▬▬▬▬ஜ۩۞۩ஜ▬▬▬▬▬●
เตือนจากใจ ทะลุถึงหัวใจ

หัวใจผูกพันด้วยศรัทธา


เรื่องราวอันยิ่งใหญ่และคําพูดหนึ่งที่สะกิดหัวใจใครหลายๆคน

สตรีผู้นี้มิใช่สตรีธรรมดาทั่วๆไป แต่เธอมีเชื้อสายสืบทอด
ตระกูลจากผู้ที่ทําหน้าที่ปกครองอณาจักรอิสลามอันยิ่งใหญ่นั่นคือ ท่านหญิงฟาฏิมะฮฺ บุตรีอับดุลมาลิก อิบนุ มัรวานเธอเป็นลูกสาวของผู้นํา (คอลีฟะฮฺ) ผู้มีทรัพย์สมบัติมหาศาลแต่ขณะที่เธอแต่งงานกับท่านคอลีฟะฮฺอุมัร อิบนุ อับดุลอาซีซ เลยยอมสละทรัพย์สมบัติ เครื่องประดับอัญมณีอันมีค่ามหาศาลที่สาวๆหลายคนปราถนา ให้กับกองคลังของแผ่นดิน (บัยตุลมาล)
เพียงเพราะที่จะอยู่กับชายผู้นี้


เธอเคยใช้ชีวิตด้วยความสนุกสนาน สะดวกสบายบนกองเงิน
กองทอง ครั้นเมื่อเธอแต่งงานกับท่านอุมัร และเขาได้รับตําแหน่งเป็นคอลีฟะฮฺ เธอกลับใช้ชีวิตที่ลําบากยิ่งกว่าคนธรรมดา
เสียอีก แม้แต่ตัวท่านอุมัร อิบนุ อับดุลอาซีซเอง ท่านเคยใช้ชีวิตหรูหราใช้เงินปีละสี่หมื่นดิรฮัม แต่ภายหลังเป็นคอลีฟะฮฺและแต่งงานแล้ว ท่านใช้เพียงปีละ 400 ดิรฮัมเท่านั้น


แม้ชีวิตท่านของหญิงฟาฏิมะฮฺจะต้องทนกับความลําบากสักเพียงใด เธอก็มิเคยปริปากบ่นแสดงความไม่พอใจกับสภาพชีวิตที่ต้องประสบ เธอกล่าวถ้อยคําที่กินใจในการใช้ชีวิตคู่ของเธอกับท่านอุมัรว่า

ผุ้หญิงที่น่ากอดที่สุด


ผุ้หญิงที่น่ากอดที่สุด ♥♥
.
.
.
.
เธอคือ ผู้หญิงที่ให้กำเนิด เลี้ยงดู อบรม ป้อนข้าว ดุว่า และดุอาอฺให้เราเสมอๆ

เธอคือ ผู้หญิงที่นบีมุฮัมมัดบอกว่า คือคนที่เราต้องทำดีด้วย รองจากอัลลอฮฺและรอซูลของพระองค์ นบีกล่าวย้ำถึง 3 ครั้ง

เธอคือ แม่ ผู้หญิงที่น่ากอดที่สุดในโลก ของลูกทุกๆ คน ^^

ปล.อิสลามงดงามเสมอ

คำถามกับตัวเอง


บ่อยครั้งที่มักตั้งคำถามกับตัวเอง "ฉันเป็นอะไร ทำอะไรอยู่เนี่ย" "ฉันเพี้ยนหรือฟุ้งซ่านไปรึเปล่า" "ทำไมต้องคิดอะไรมากมาย วุ่นวายกับชีวิตด้วย".

มันผุดขึ้นเหมือนมีบางอย่างครอบงำ แน่นอน "ฉันคือมุสลิมะฮฺคนหนึ่ง ฉันไม่ฟุ้งซ่าน พี่น้องมุสลิมก็คงเป็นเหมือนฉันและคงคิดมากเหมือนฉันหรือยิ่งกว่าฉัน"
ชีวิตของฉันมันไม่ใช่แค่นั้น และมันไม่ใช่ชีวิตของฉันอีกด้วย มันถูกสร้างและถูกกำหนดมาจากผู้อยู่เบื้องบนที่หลายคนต้องสยบ ไม่มีใครต่อกรได้ ฉันก็เช่นกันที่ต้องยอมสยบอย่างไรข้อกังขา ไร้ข้ออ้างใด เพราะมันคือชีวิตที่ถูกบรรจงสร้างมาด้วยพระองค์ อัลลอฮฺซุบฮานะฮูวะตะอาลา พระองค์ประสงค์ให้บ่าวใช้ชีวิตในดุนยาเพื่อชีวิตอาคิเราะฮฺ.
.
.
"พระองค์คือผู้ทรงทำให้พวกเจ้ามีรูปร่างขึ้นในมดลูก ตามที่พระองค์ทรงประสงค์ ไม่มีสิ่งที่ควรได้รับการเคารพสักการะใด ๆนอกจากพระองค์เท่านั้น ผู้ทรงเดชานุภาพ ผู้ทรงปรีชาญาณ" [อาละอิมรอน 3:6]

การมีใจบริสุทธิ์


الإِخْـلاَصُ

อิคล๊าศ หมายถึง การมีใจบริสุทธิ์ ไม่โอ้อวด ทำงานและทำอิบาดะฮฺ เพื่อหวังความโปรดปรานจากพระองค์อัลลอฮฺเท่านั้น ไม่ใช่เพื่อหวังเงินทอง คำชมเชย ชื่อเสียง ความโด่งดังในสังคม การทำงานหรือการทำอิบาดะห์ของคนหนึ่งคนใดนั้น จะต้องมีความบริสุทธิ์ใจ เพราะความบริสุทธิ์ใจ คือจุดเริ่มต้นที่ดีของการทำงานทุกอย่าง

ท่านร่อซูล(ซล.) ได้พูดเรื่องเจตนา ไว้ว่า

“แท้จริงการทำงานทุกอย่าง ขึ้นอยู่กับเจตนา . .”

ดังนั้น เจตนารมณ์ สามารถบ่งบอกถึงความดี หากมีเจตนาไม่ดี งานที่ออกมาย่อมมีผลเสีย และเป็นโมฆะ

ท่านอบีอุมามะฮฺ เล่าว่า ท่านร่อซูลลุลลอฮฺ(ซล.) สอนว่า

“แท้จริงพระองค์อัลลอฮฺ จะไม่ทรงรับการงานใดๆ นอกจากเขามีความบริสุทธิ์ใจ และหวังผลตอบแทนจากพระองค์”

บันทึกโดย อัน นะซาอีย์

จากฮะดีษข้างต้น ท่านร่อซูล(ซล.) ได้ยกตัวอย่างที่มาของเรื่องนี้ไว้ว่า มีชายคนหนึ่งมาหาท่าน และถามว่า “ชายคนหนึ่งออกทำสงคราม เพื่อหวังผลตอบแทนในโลกดุนยา และต้องการเพื่อให้ผู้อื่นกล่าวขานถึงเขาว่า เป็นคนกล้าหาญ แล้วเขาจะได้รับความดีไหม? ท่านร่อซูล(ซล.) ตอบว่า เขาจะไม่ได้รับสิ่งใดตอบแทนเลย ท่านร่อซูลกล่าวซ้ำอย่างนี้ถึง 3 ครั้ง แล้วกล่าวต่อไปว่า แท้จริงพระองค์อัลลอฮฺ จะไม่ทรงรับการงานใดๆ นอกจากเขามีความบริสุทธิ์ใจ และหวังผลตอบแทนจากพระองค์"

ฉะนั้น การทำงานทุกครั้ง ต้องมีใจบริสุทธิ์ต่ออัลลอฮฺองค์เดียว และการตั้งเจตนา ถือว่าเป็นมาตรวัดผลงานของเขาอีกด้วย จึงจำเป็นแก่มุสลิมทุกคนจะต้องขจัดสิ่งอื่นใดออกไปให้หมดสิ้น ให้เหลืออยู่แต่การมีใจบริสุทธิ์เพื่ออัลลอฮฺ(อิคล๊าศ) เท่านั้น

ด้วยเหตุนี้ อิสลามจึงให้ความสำคัญ เรื่องการตั้งเจตนาไว้เป็นอันดับแรก อะมั้ลหรือการงานใดๆ ค่าของมันไม่ได้อยู่ที่จำนวนมากมาย คุณค่าของมัน ขึ้นอยู่กับการมีเจตนาดี มีใจบริสุทธิ์ และทำงานจำนวนมากที่ทำด้วยความบริสุทธิ์ย่อมประเสริฐกว่าอย่างแน่นอน ความดีตามหลักอิสลามจะต้องเกิดขึ้นจากเจตนาที่ดีต่ออัลลอฮฺองค์เดียว และต้องเป็นไปตามคำสั่งของอัลลอฮฺเท่านั้น

แหล่งข้อมูล : kurusampan      

ดุอาอฺในเดือนรอมฎอน



1. ดุอาอฺละศีลอด

ذَهَبَ الظَمَأُ وَابْتَلَّتِ العُرُوقُ وَثَبَتَ الأَجْرُ إِن شَاءَ اللهُ


คำอ่าน "ซะฮะบัซ เซาะมะอุ วับตัลละติลอุรูก วะษะบาตัลอัจญ์รุ อินชาอัลลอฮฺ"

ความหมาย "ความกระหายได้หมดไปแล้ว เส้นโลหิตก็เปียกชื้น ผลบุญก็ได้รับแล้ว ด้วยความประสงค์ของอัลลอฮฺ"

2. ดุอาอฺแก่ผู้เชิญ (ให้อาหาร) ละศีลอด

أَفْطَرَ عِنْدَكُمُ الصَّائِمُوْنَ وَأَكَلَ طَعَامَكُمُ الأَبْرَاْرَ وَصَلَّتْ عَلَيْكُمُ الْمَلاَئِكَةُ

คำอ่าน "อัฟเฏาะเราะ อินดากุมุสศออีมูน วะอะกะละ เฏาะอามะกุมุล อับร้อร วะศ็อลลัต อะลัยกุมมุล มะลาอิกะฮฺ"

ความหมาย "เหล่าผู้ถือบวชได้ละศีลอดกับท่าน เหล่าผู้ประเสริฐได้ทานอาหารของท่าน และบรรดามลาอิกะฮฺได้ขอพรให้ท่านแล้ว"

3. ดุอาอฺคืน ลัยละตุล ก็อดรฺ

اللَّهُمَّ إِنَّكَ عَفُوٌّ تُحِبُّ الْعَفْوَ فَاعْفُ عَنِّيْ

คำอ่าน "อัลลอฮุมมะ อินนะกะ อะฟุวฺว่น ตุฮิบบุลอัฟวะ ฟะอฺฟุอันนี"

ความหมาย "โอ้ผู้อภิบาลของเรา แท้จริงพระองค์ทรงเป็นผู้อภัยยิ่งและพระองค์ทรงรักการให้อภัย ดังนั้นขอได้โปรดประทานอภัยแก่ข้าพระองค์ด้วยเถิด"

ความรักของเด็กแนว(แนวอิสลาม)


ความรักของเด็กแนว(แนวอิสลาม)
แม้บางเวลา จะรู้สึกเหงา เพราะไม่มีคนบอกรัก แต่ฉันจะรักอัลลอฮแม้บางเวลา จะรู้สึกเหงา
เพราะไม่มีคนมาบอกว่าคิดถึง แต่ฉัน จะคิดถึงอัลลอฮแม้บางเวลา
จะไม่มีข้อความหวานๆมีแต่ “กรุณาเติมเงิน” แต่ฉันก้ยอมรับเพื่ออัลลอฮแม้บางเวลา
ไม่มีครัยบอกให้ฝันดี แต่ฉันก็อ่านดุอาอ์ก่อนนอน และความฝันที่มาจากอัลลอฮแม้บางเวลา
ฉันจะรู้สึกเชย รู้สึกด้อยถ้าไม่มีแฟน เหมือนในการ์ตูนญี่ปุ่น แต่ฉัน
จะยอมเชยเพื่ออัลลอฮแม้บางเวลา จะมีครัยๆมองว่าสมเพช ที่ว่า โดนทิ้ง แต่ฉัน จะอดทนเพื่ออัลลอฮแม้บางเวลาฉันต้องทำอะรัยเอง เพราะไม่มีคนคอยเทคแคร์ดูแลเหมือนเมื่อก่อน แต่เหงื่อทุกหยดจะเปนพยานให้ฉันแม้บางเวลา มีคำพูดทิ่มแทงหัวใจจนเจ็บซ่าน “ดอกไม้ที่ร่วงแล้ว ยังงัยมันก้อไร้ค่า
” แต่ฉัน คิดว่ามันจะไม่ไร้ค่าในสายตาของอัลลอฮแม้บางเวลา จะไม่มีครัยคอยให้กำลังใจฉั
แต่ฉันก็หมั่นขอกำลังใจจากอัลลอฮแม้บางเวลา มีครัยถามฉันว่า แน่ใจแล้วหรือ แต่ฉัน
พยายามบอกตัวเองเสมอว่า ฉันทำถูกแล้ว อัลลอฮ(ซ.บ)ได้ทรงตรัสไว้ว่า จะมีบุคคลอยู่ 7 ประเภท
ที่จะได้อารัชของพระองค์ในวันกียามัต และ 1 ใน 7 นั้นคือ ผู้ที่รักกันเพื่ออัลลอฮ
และยอมจากกันเพื่ออัลลอฮหากวันนี้เรายอมละทิ้งสิ่งที่เราชอบและรัก
เพื่อแสวงหาความโปรดปรานจากอัลลอฮแล้ว Insha-Allah
อัลลอฮจะตอบแทนสิ่งที่ดีกว่าและฉันยังคงรอ....สิ่งที่ดีกว่า.....ด้วยความหวัง
<<ขอพระองค์โปรดประทานสิ่งที่ดีที่สุดให้ฉันได้รักอย่างบริสุทธิใจ>>

มนุษย์บนดุลญา!!


กิจวัตรประจำวันของมนุษย์คือการขายชีวิต

ท่านเราะซูลุลลอฮ( ซล) กล่าวว่า
كل الناس يغدو فبائع نفسه فمعتقها أو موبقها
ความว่า: มนุษย์ทุกชีวิตจะใช้ชีวิตในยามเช้าด้วยการขายชีวิตของตัวเอง (ให้กับอัลลอฮ หรืออารมณ์ตัณหา หรือชัยฎอน) ดั้งนั้น (หากเขาเริ่มชีวิตใหม่ในยามเช้าของเขาด้วยการขายชีวิตของตัวเองให้กับอัลลอฮเพื่อทำการภักดีต่อพระองค์ เเละเจริญรอยตามเเบบอย่างการปฏิบัตของท่านเราะซูลุลอฮในทุกย่างก้าวของการดำเนินชีวิต)เขาย่อมจะประสบความสำเร็จในชีวิตเเละชีวิตของเขาจะไดรับการปลดปล่อย(จากความอปยศบนโลกนี้)เเละจะการถูกลงโทษในไฟนรก เเต่ ( หากเขาเริ่มต้นชีวิตใหม่ในยามเช้าของเขาด้วยการขายชีวิตตัวเองให้กับอารมณ์ตัณหาเเละชัยฏอนในทุกย่างก้าวของการดำเนินชีวิต)ชีวิตอันมีค่าของเขาก็จะพังทลายทั้งชีวิตบนโลกนี้เเละชีวิตในวันอาคิเราะห์ "

(บันทึกโดย มุสลิม 223)

หนทางสู่สรวงสวรรค์

 

سلمان بن يحيى المالكي : โดย

1 -. ผู้ใดที่พบกับอัลลอฮฺ โดยที่เขาไม่ตั้งภาดีใดๆกับพระองค์ จะได้เข้าสวรรค์
(อัลบุคอรีย์)

2 -. ผู้ใดที่ศรัทธาต่ออัลลอฮฺ และต่อรอซูลของพระองค์ ดำรงไว้ซึ่งการละหมาด ถือศีลอดในเดือนรอมฎอน เป็นสิทธิที่อัลลอฮฺ จะให้เขาได้เข้าสวรรค์

(อัลบุคอรีย์)


3 -. ผู้ใดที่สร้างมัสญิดหนึ่งหลังเพื่อพระพักตร์ของอัลลอฮฺ (บริสุทธิ์ใจ) อัลลอฮฺ สร้างบ้านเหมืนอกันนั้นให้แก่เขาในสวรรค์

(อัลบุคอรีย์)


4 -. ผู้ใดที่ละหมาด อัลบัรดัยนฺ(ละหมาดซุบฮฺ และ อัสรี )จะได้เข้าสวรรค์

(อัลบุคอรีย์)


5 -. ผู้ใดที่เดินทางไปละหมาดที่มัสญิดและเดินกลับ อัลลอฮฺ ประทานที่ในสวรรค์ให้แก่เขาสำหรับทุกๆก้าวที่เดินไปและกลับ

(อัลบุคอรีย์)


6 -. ผู้ใดที่รับประกันกับฉัน(ความบริสุทธิ์) สิ่งที่อยู่ระหว่างสองเครา(ปาก)และสิ่งที่อยู่สองขา (อวัยวะเพศ)ฉันจะประกันสวรรค์ให้เขา

(อัลบุคอรีย์)


มุสลิมะห์ทั้งหลาย!!

มุสลิมะห์ที่นำเสนอรูปของตัวเองลงเฟรสบุ๊ครวมถึงโปรแกรมและเว็บไซต์อื่นๆ โปรดจำไว้ว่าผู้ชายที่ชมภาพของคุณ มี 3 ประเภท

1. คนที่ชื่นชมในความสวยงามของคุณ เขาอาจเพียงนึกชม หยอกแซว ไปจนถึงเก็บเอาไปคิดอะไรที่ไม่ดี ทั้งหมดนี้สรุปได้ว่าคุณมีสถานะเป็นอาหารทางสายตาของเขา อาหารสาธารณะที่จะถูกชมเชยโดยสายตานับคู่ไม่ถ้วน

2. คนที่นึกหมองมัวกับการกระทำของคุณ มุสลิมีนที่มีศาสนาและมีสติดี ย่อมจะต้องรู้สึกตะขิดตะขวงจกับการอวดแสดงรูปร่าง หน้าตาของมุสลิมะห์ ราวกับตนเป็นของสาธารณะ ในสถานะนี้คุณคือใครบางคนที่เขานึกสงสารไปจนถึงตำหนิ ไม่ได้จะชื่นชมอะไรเลย (ไม่ต้องนับว่าสำหรับบางคนที่ห้ามความรู้สึกไม่ทันคุณก็อาจจะเป็นตัวตลก)

3. คนที่ไม่ความคิดเห็น เฉยๆ กับสิ่งที่คุณทำ เขาอาจเป็นมครบางคนที่ไม่ได้เคร่งครัด เขาจะมองผ่านคุณเหมือนมองผ่านดอกไม้ข้างทางสักดอก ที่อวดแสดงสีสันของตนอย่างไร้ความหมาย สำหรับเขา รูปภาพของคุณก็เหมือนกับรูปโฆษณาสินค้าข้างจอ คือมีเมื่อเรียกร้องความสนใจ แต่ไม่เคยได้รับการใยดี สรุปคือยังนึกไม่ออก ว่าการแสดงภาพตัวเองลงหน้าจอมันมีอะไรดี ไม่ว่ามองในมุมไหนมันก็มีแต่เสียกับเสีย ที่บอกมานี่เป็นเพียงตัวอย่าง " ความเสีย " ที่คุณจะได้รับความคิดเห็นของมนุษย์รูปแบบต่างๆ ถ้าเผื่อคุณแคร์


- แต่ใช่ เราไม่ควรแคร์ ! ความคิดเห็นของมนุษย์มันก็เท่านั้น สิ่งสำคัญคืออัลลอฮฺ์คิดยังไง? พอใจเราหรือเปล่าต่างหาก.... ก็แล้วแต่พี่น้องมุสลิมะห์ที่จัดแสดงรูปภาพตัวเองลงอินเตอร์เน็ตรวมกับของสาธารณะที่เข้าชมฟรีๆ โดยไม่ต้องเสียตังค์ คิดหรือว่าอัลลอฮฺ์จะพอใจเรา?


ส่วนฟังก์ชั่นการกด " ถูกใจ " ในเฟรสบุ๊ค มีนัยยะหลายเรื่อง น่าคิด เรื่องแรกที่ถึงระวังมากๆ คือการโอ้อวด ถ้าเรานำเสนอเรื่องราวดีๆ เพียงเพราะอยากได้รับการกดถูกใจจากใครบางคนหรือหลายคน มันก็เป็นความหายนะสิ้นดีของชีวิต ฉะนั้นไม่ว่าจะพิมพ์หรือนำเสนออะไร อย่าเหลือพื้นที่ในหัวใจให้ความคาดหวังที่จะได้รับการกดถูกใจจากใครเว้นแต่ " อัลลอฮฺ์ " ถ้าหาคิดว่าอัลลอฮฺ์ถูกใจก็ทำเลย แต่ถ้าคิดว่าอัลลอฮฺ์ไม่ถูกใจแน่ๆ ...หยุดเสีย



ท่องไปในเฟรสบุ๊ค ข้อคิดดีๆ จาก มุฎมะอินนะฮฺ


บทความดีๆ จาก : หนังสือพิมพ์ไทยแลนนิวส์ดารุสสลาม

ความตายที่โยงใยมารดา



**... ♥♥♥ ความตายที่โยงใยมารดา ♥♥♥ ..**
เล่ามาจากอะนัส บิน มาลิก 
มีชายคนหนึ่งในสมัยของท่านศาสดามุฮัมมัด นามว่า อัลกอมะฮฺ เป็นคนที่เคร่งครัดในศาสนามาก อยู่มาเขาล้มป่วยลง และอาการเขาค่อยๆ หนักขึ้น ไม่มีทีท่าว่าจะทุเลาเลย เขาประสบความทรมานจากอาการป่วยมากที่สุด และเขาก็คงสภาพเช่นนั้นติดต่อมาเป็นเวลานาน โดยสภาพปกติทั่วไปแล้ว ถ้าเป็นคนอื่นก็คงจะตายไปแล้ว แต่อัลกอมะฮฺกลับทุรนทุรายเป็นที่น่าเวทนา บรรดาญาติมิตรมานั่งเฝ้าอาการของเขาด้วยความเป็นห่วงและสงสาร เพราะอัลกอมะฮฺเป็นคนทำดีมาโดยตลอด บั้นปลายชีวิตของเขาไม่น่าจะประสบภาวะเช่นนี้ และทุกคนเต็มไปด้วยความสงสัย จึงเดินทางไปพบศาสดาและรายงานให้ท่านทราบ

ท่านศาสดาถามว่า " อัลกอมะฮฺผู้นี้มีพ่อ มีแม่ ไหม ? "

ได้รับคำตอบจากคนกลุ่มนี้ว่า เขามีแม่ที่แก่มากและยังมีชีวิตอยู่ ท่านศาสดาจึงให้คนไปบอกแก่นางว่า นางจะมาพบด้วยตัวเองไหวมาก ถ้าไม่ไหวท่านศาสดาจะไปพบเอง เมื่อแม่ของอัลกอมะฮฺได้ทราบเช่นนั้น นางก็ตัดสินใจไปพบท่านศาสดา แม้นางจะชรามาก เรี่ยวแรงเหลือน้อย และสุขภาพไม่ดี นางกะเย้อกระแย่ง ถือไม้เท้าพยุงกายไปพบกับท่านด้วยความดีใจและภูมิใจเป็นล้นพ้น นางไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยเลยที่ต้องเดินทางออกจากบ้านมาพบท่านศาสดา ครั้นเมื่อมาถึงแล้ว

ให้ "น้ำตา" ไหลซะบ้าง!!

อัสลามูอาลัยกุม......พี่น้องมุสลิมที่รักทุกท่านข้อความมันอาจจะยาวไปสักนิด แต่ มันคงไม่เสียเวลามากนักถ้าพี่น้องที่รักจะอ่านเพื่อตัวของท่านเอง ^^
ให้น้ำตา.....ไหลซะบ้าง!!
         น้ำตา..กลั้นไว้ทำไม..ปล่อยซิ..ปล่อยให้ไหลมาอาบแก้มเถอะ ในเมื่อน้ำสามารถชำระล้าง..สิ่งมัวหมองให้สดใสได้นี่หน่าน้ำตาซิ..วิเศษ..จะช่วยให้คุณมองเห็นอะไรต่อมิอะไร..ฯลฯ ได้ดีขึ้น บางเรื่องที่มัวหมองและหมองหม่นในสายตาคุณมานานแล้ว..อาจจะสดใสในวันที่คุณมีน้ำตาก็ได้ บางคน..หรือหลายคนและรวมถึงคุณด้วย..ที่ไม่กล้าจะเสียน้ำตา..กลัวกับการที่ต้องร้องไห้...คุณลองสังเกตและพยายามสัมผัสถึงความรู้สึกหลังจากร้องไห้ไปแล้วซิ..ว่าคุณรู้สึกอย่างไร...รู้สึกไหมว่า..โล่งอกและแอบถอนหายใจหนักๆ..แน่ล่ะในเมื่อคุณได้ระบายออกไปแล้วนี่..โดยที่คุณไม่จำเป็นจะต้องเดินทางหรือโทรศัพท์ไปหาเพื่อนรักเพื่อระบายทุกข์ของคุณให้เขาฟัง..เห็นไหม?แสดงว่าน้ำตาคือเพื่อนคู่ทุกข์ของคุณอย่างแท้จริง..ทีนี้คุณเริ่มจะเห็นความสำคัญของน้ำตาบ้างหรือยังล่ะ..ฉะนั้นคุณก็อย่าสกัดกั้นเจ้าน้ำตาซิ..ในเวลาที่คุณมีความทุกข์มนเมื่อน้ำตาน่ะ..มันพร้อมเสมอที่จะร้องไห้ไปกับคุณ..เลิกอายกับน้ำตาได้แล้ว....รู้สึกไหมว่า...คุณเริ่มจะเห็นถึงต้นเหตุ..ปัญหา..และวิธีแก้ไขบ้างแล้วใช่ไหม?..บางทีคุณเองนั่นแหละเป็นต้นเหตุของปัญหา..ก็เริ่มยอมรับแล้วล่ะซิ..ก่อนร้องคุณอาจจะโยนความผิดให้คนโน้น..คนนี้..แต่หลังร้องคุณอาจจะรำพึงกับตัวเองว่า เราไม่ฉลาดเอง..เราผิดเอง..รู้สึกไหมว่า...ใบหน้าและจิตใจของคุณเริ่มจะอ่อนโยนหลังจากที่มันแข็งกระด้างและทระนงมานานแล้ว..เมื่อจิตใจอ่อนโยนแต่ไม่ได้หมายความว่าคุณจะรู้สึก

ฉันต้องการสามี-ภรรยา


♥ ♥ฉันต้องการสามีหรือภรรยาที่โกรธฉันเมื่อฉันไม่ละหมาด

ฉันต้องการสามีหรือภรรยาที่จะเอาน้ำเย็นราดใส่ฉันเมื่อไม่ตื่นมาละหมาดซุบฮี ♥ ♥

ฉันต้องการสามีหรือภรรยาที่สามารถชักจูงฉันให้ใกล้ชิดกับอัลลอฮ คนที่รู้สึกอารมณ์เสียเมื่อฉันพูดโกหก หลอกลวง และทำในสิ่งที่ผิด ♥ ♥

ฉันต้องการสามีหรือภรรยาที่เรียกฉันทุก ๆ หลังละหมาดมัฆริบเพื่อที่จะอ่านอัลกุรอานด้วยกัน ♥ ♥

ฉันต้องการสามีหรือภรรยาที่สามารถปลุกฉันให้ตื่นขึ้นมากลางดึกเพื่อละหมาดและขอประทานอภัยโทษจากอัลลอฮ ♥ ♥

ฉันต้องการสามีหรือภรรยาที่สามารถทำทุกสิ่ง ทุกอย่างเพื่อฉันเพื่อให้เราได้อยู่ร่วมกันอีกในสรวงสวรรค์

อินซาอัลลอฮ ♥ ♥

ใครที่เป็นแฟนกับเราได้


ใครที่เป็นแฟนกับเราได้ ใครคนนั้นก็เป็น
แฟนกับคนอื่นได้เช่นกัน...


‘’ระบบแฟน ไม่ได้มีการรับรองจากผู้สร้างของเรา’’
……………..

“และหนึ่งจากสัญญาณของพระองค์ก็คือ ทรงสร้างคู่ครอง
ให้แก่พวกเจ้าจากตัวของพวกเจ้าเอง เพื่อว่าพวกเจ้าจะได้มีความ
สุขอยู่กับนาง และทรงให้มีความรักใคร่ และความเมตตาระหว่างพวกเจ้าแท้จริงในการนี้ แน่นอนยอมเป็นสัญญาณแก่หมู่ชนผู้ใคร่ครวญ”
(ซูเราะฮฺ อัรรุม อายะฮฺที่ 21)

ความอาย



ท่านนบี –ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม- ได้กล่าว่า:“ความอายนั้นคือส่วนหนึ่งของการศรัทธา”

ความอาย >>> คืออาภรณ์ที่สวยงาม คือเครื่องประดับที่เลอค่ามากที่สุดสำหรับสตรีและเมื่อใดทีีเรา (มุสลีมะฮ )ได้ปลดเปลื้องอาภรณ์แห่งความอายแล้วความเป็นกุลสตรี
และเกียรติของเธอก็จะเลืองลางจางหายไปด้วย

เรา (มุสลีมะฮ) จงรักษาเกียรติ สงวนตัว และดูแลหัวใจให้สะอาดบริสุทธิ์ผุดผ่องเถิด และจงอย่าได้ให้จุดด่างดำได้จับเกาะอยู่บนหัวใจของเธอ เพราะหัวใจที่ขาวสะอาดมันจะต่อต้านสิ่งแปลกปลอมและปฏิกูลที่พยายามจะจับเกาะ อยู่บนหัวใจ และเธอก็จะได้เป็นผู้ที่ได้รับความผาสุกในโลกหน้า.......อิงซาอัลลฮ
.
.
ปล.อิสลามงดงามเสมอ

เจ้าสาวในอิสลาม.


เธอรู้ไม วันนั้น ฉันรู้สึกว่าฉันคือ นางฟ้า ที่สวยที่สุด
เป็นครั้งเเรกที่ฉันได้ใส่ชุด ที่สวยที่สุด
หากเป็นวันปกติ คงไม่มีใครใส่ได้เเน่
นอกจาก ผู้นั้น ต้องเป็นเจ้าสาว เท่านั้น

ฉันทาเล็บเเดง
ฉันทาลิปเเดง
ฉันทาขอบตา
ฉันทามัสคาร่า
ฉันทาอาเชโด่
ซึ่งฉันไมเคยใช้มันมาก่อน

ใส่ฮีญาบ ฉันสวยที่สุด ในงานวันนั้น
เพื่อนๆมุสลีมะหของฉัน ชมว่าฉันสวยมาก

โอ้พระผู้เป็นเจ้าของข้า


اللَّهُمَّ مَا رَزَقْتَنِيْ مِمَّا أُحِبُّ فَاجْعَلْهُ قُوَّةً لِيْ فِيْمَا تُحِبُّ . اللَّهُمَّ مَا زَوَيْتَ عَنِّيْ مِمَّا أُحِبُّ فَاجْعَلْهُ فَرَاغًا لِيْ فِيْمَا تُحِبُّ

ความว่า “โอ้พระผู้เป็นเจ้าของข้า สิ่งใดที่พระองค์ได้ประทานแก่ข้าจากบางสิ่งที่ข้าโปรดปรานและรักใคร่

ขอพระองค์โปรดบันดาลให้สิ่งนั้นเป็นพลังขับเคลื่อนให้ข้า (ปฏิบัติ) ในสิ่งที่พระองค์ทรงรักและโปรดปราน

โอ้พระผู้เป็นเจ้าของข้า สิ่งใดที่พระองค์ทรงถอนกลับจากข้าจากบางสิ่งที่ข้ารักใคร่และโปรดปราน

ขอพระองค์ทรงโปรดบันดาลให้สิ่งนั้นเป็นโอกาสให้ข้า (ปฏิบัติ) ในสิ่งที่พระองค์ทรงรักและโปรดปรานด้วยเถิด”

[บันทึกโดยอัต-ตัรมิซี ลำดับหะดีษที่ 3552, เป็นหะดีษที่หะสัน]